“การคำนึงถึง การพัฒนาและวิจัยร่วมกัน ของภาคชุมชน สังคม สภาพบุคคล และจิตวิญญาณ, โดยอาศัยแบบร่าง ที่เป็นสมมุติ ว่าด้วยการพิจารณา ตามแบบที่ยังไม่มีบทสรุป”
หน้าเว็บ
- DD MAR
- DD DNF
- DD SMR
- DD PKK
- DD KPR
- DD BBO
- DD TKW
- DD KBD
- DD TMO
- DD KCH
- DD SDA
- DD MKT
- DD MKP
- DD HWA
- DD NTA
- DD BGU
- DD CRT
- DD TLS
- DD VTN
- DD MRM
- DD MKU
- DD KNG
- DD KLM
- DD PJW
- DD MNW
- DD NMI
- DD FNG
- DD SNO
- DD APY
- DD LTW
- DD GNU
- DD MKW
- DD MLK
- DD MDN
- DD BWU
- DD KHL
- DD MTS
- DD PHO
- DD MCM
- DD SRY
- DD BMG
- DD BTG
- DD BKJ
- DD BMM
- DD BHP
- DD BHR
- DD BPU
- DD BPW
- DD TAB
- DD MKH
- DD CRA
- DP Kasi
- [🔠]
คนที่เขาไม่มาตรวจ นั่นหน่ะ ใจลึกของท่าน คงแต่ท่านพึงจะว่า หนังสือชนิดนี้ ย่อมผิด ๆ ไปทั้งหมดนั่นแหละ ซึ่งคงมิใช่ผิดแค่ตัวเดียว คำเดียวอักษรเดียว หรือศัพท์เดียว , เพราะความจริงก็คือ ตรงไหนผิด! ตรงไหนเสีย ที่อื่น ๆ ก็ย่อม เปรียบว่าเหม็น หรือว่า ได้เสียหาย ตามไปด้วยทั้งหมด นั้น ฉะนั้น
ReplyDeleteคนที่ไม่มาตรวจ ชะรอย ท่านจะว่า สิ่งผิด ๆ เสีย ๆ นี้ เขาไม่อยากยุ่ง ยิ่งเรื่องความที่หนักสมองแบบนี้ และเหนื่อยใจ อย่างนี้ จะยังยุ่งขิงไปทำไม เปรียบว่า จะเร่เข้ามาถูกติถูกด่า ถูกสาป จากหนังสือนี้ไปทำไม
ในเมื่อความจริง หากว่า ไม่ต้องการพิสูจน์ ไม่ต้องการวิจัย ไม่ต้องการสร้างบทความเจริญ และความสมบูรณ์ ให้กับความจริง ต่อแต่แยกย่อย แบบนี้ ตัดทอน หรือทำแผ่นทาบ ทำเทียบ เสริมเข้ามา ก็ที่เพื่อจะ ลดรอย เช่นที่ต้องเปรียบว่า ปุปะ เหลือเกิน มีแต่รอยรั่ว รอยร้าว ที่ขาดการเหลียวแล กระทั่งเห็น ปรุ พรุน อยู่จนทั่ว แบบนี้ ตลอดไป ตกทอด ต่อไปถึงความจริงอยู่แทบทั้งหมด
ถามว่า แต่ร่างกาย ฉะนั้น ร่างกาย มีกลางวันเมื่อไหร่ มีกลางคืนเมื่อไหร่? , แต่ก็เพียร เพื่อที่จะมิข้าม มิขวางโวหาร อันจะผิดไปกว่า ให้ใจได้ดำเนินไปสู่ธรรม อันเป็นอรณวิหาร คือว่า มิให้ต้องมีข้าศึก รำคาญ มาแต่ร่างกาย หรือใจ
ReplyDeleteมีกลางวันเมื่อไหร่ มีกลางคืนเมื่อไหร่ เอาอย่าง ตัวอย่างจะตอบในกระบวน ที่เป็นคัมภีร์ มุข หรือด้วยนัยโวหาร ดั่งนี้ ก่อน , ก็ต้องเพียรตอบ เพื่อไม่ให้มีเรื่อง ว่า ย่อมมีวันเท่ากับคืน ย่อมมีกลางคืนเท่ากับกลางวัน แต่ถ้าคิดจะครองคืน หรือจะครองวัน ก็ต้องควรแล้วแต่ปฏิปทาแห่งคน ๆ นั้น จะเข้าเคี่ยวเข็ญ แก่เรี่ยวแรงกำลัง และน้ำใจของตน ว่าจะเข้าใจและกระทำทุ่มเท ระลึก ไปได้
ก็ให้สรุปว่า วัน -คืน เป็นเรื่องของความคงเส้นคงวา และแนวโน้ม เพราะว่าคนที่มิสน เรื่องวันเดือนปี ไม่มีกลางวันกลางคืน จะหาว่ามีดี จะหาว่าเป็นปรกติ ไม่วิปลาส หาได้ไม่ , แต่แล้วทีนี้ ก็คิดดูว่า ผู้ไปก่อน ในทิศเบื้องหน้า อาจจะกล่าวแต่ส่วนที่ท่านครอง ว่าวัน หรือคืน นั้น
ฉะนั้น ก็จึ่งเป็นอันว่าเราผู้ตามหลัง ได้ฟังคำบอก โดยมิรู้ทั่ว มุ่งแต่ส่วนสำเร็จรูป ที่ท่านผู้สำเร็จได้ทอดผ่านมาถึง เรื่อง ก็จึ่งถึงได้แต่รู้ไว้ด้วยแง่ใดแง่หนึ่งเท่านั้น โดยไม่รู้ว่า ที่จริง มีอยู่โดยส่วนทั้งสอง โดยที่ดี สำเร็จได้ แต่เรารับแต่ส่วนที่ทอดมานั้น อย่างฝังใจ จึงคิดว่าอีกส่วนหนึ่งไม่ใช่
คือว่า ยังมิทันได้มองตราชู ยังมิได้ดูตาชั่ง ดั่งนี้ ไปตามหน้าอธิบายแบบนี้ ก็ย่อมอยากจะสงสัย และคิดว่า หากอยู่ในจุดที่เป็นพื้นที่เดียวกัน คนที่มาตั้งแสดงโพสต์ ด้วยเวลากลางคืน เป็นคนเช่นไร และเขาจะถึงทางสะอาดบริสุทธิ์ ด้วยวิธีเช่นไร และก็เหมือนกัน ท่านที่มาแต่ตั้งแสดงโพสต์ ในเวลากลางวัน ท่านเหล่านั้น ท่านจะมุ่งให้ถึงความพรั่งพร้อมอะไร ในเรื่องของความบริสุทธิ์